อว. เปิดเวทีระดมความเห็น (ร่าง) ประกาศฯ “เคลื่อนย้าย-แลกเปลี่ยนบุคลากร” ชี้ต้องปฏิบัติได้จริง เพื่อสร้างระบบพัฒนาคนอย่างยั่งยืน อว. ปูทาง "แลกเปลี่ยน-เคลื่อนย้ายบุคลากร" ทั่วประเทศ จัดประชุมชี้แจงรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เรื่อง แนวทางการเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยนบุคลากร พ.ศ. ....” ระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน มุ่งสร้าง (ร่าง) ประกาศที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อวันที่ 26 กันยายน สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดย กองส่งเสริมและพัฒนาทุนทางปัญญา (กสป.) จัด “การประชุมสัมมนาเพื่อชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เรื่อง แนวทางการเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยนบุคลากร พ.ศ. ....” ระดมความคิดเห็นจากสถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานในสังกัด อว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมาทบทวน ปรับปรุง ร่างประกาศให้มีความครบถ้วน สมบูรณ์ โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ปมทอง มาลากุล ณ อยุธยา เลขาธิการที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย กล่าวเปิดงาน ดร.ธนิน กรอธิพงศ์ เลขานุการที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎ นางสาวจุฑาพร เทพพัตรา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาทรัพยากรบุคคล รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาทุนทางปัญญา และนางสาวณัฐกนก เจนสุขสถิตไพศาล ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากทุนทางปัญญา เป็นผู้แทนคณะทำงานจัดทำแนวทางการเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยนบุคลากร ชี้แจงวัตถุประสงค์และร่างแนวทางฯ และมีคณะผู้บริหารจากสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กทม.
ผศ.ปมทอง กล่าวว่า กระทรวง อว. ตระหนักดีว่า "การเคลื่อนย้ายและแลกเปลี่ยนบุคลากร" ถือเป็นกลไกเชิงรุกที่สำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคนและองค์กร เพราะไม่ใช่เป็นเพียงการย้ายสถานที่ทำงาน แต่คือการเปิดประตูแห่งโอกาสให้บุคลากรได้สั่งสมประสบการณ์ที่หลากหลาย แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่ลึกซึ้ง ตลอดจนซึมซับเทคโนโลยีและแนวคิดใหม่ๆ เพื่อนำกลับมาต่อยอดและพัฒนาหน่วยงานต้นสังกัดให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด การมีแนวทางที่ชัดเจนและปฏิบัติได้จริงจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ไร้รอยต่อ และยกระดับขีดความสามารถของบุคลากรไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ “การประชุมในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงการชี้แจงรายละเอียดของ (ร่าง) ประกาศฯ จากฝ่ายเดียว แต่เป็นเวทีแห่งการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ เพื่อรับฟังเสียงสะท้อน ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะอันทรงคุณค่าจากทุกคน ซึ่งเป็นผู้ที่จะนำนโยบายนี้ไปสู่การปฏิบัติจริง“ ผศ.ปมทอง กล่าว