เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวง อว. ได้จัดการอบรมโครงการเสริมสร้างความรู้ เรื่อง สถานการณ์ข้อร้องเรียนทุจริตและประพฤติมิชอบของกระทรวง อว. และการสร้างสังคมโปรงใส ไร้สินบน สู่องค์กรพอเพียงต้านทุจริต STRONG MHESI ณ ห้องประชุมแซฟไฟร์ 1-2 ชั้น 2 โรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค กรุงเทพฯ และระบบประชุมทางไกลออนไลน์ (Zoom) โดยได้รับเกียรติจาก นายวันนี นนท์ศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. เป็นประธานกล่าวเปิดพิธี
การจัดโครงการเสริมสร้างความรู้ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์
(1) เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนักเกี่ยวกับสถานการณ์ข้อร้องเรียนทุจริตและประพฤติมิชอบของหน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด อว. ตลอดจนกระบวนการรับคำกล่าวหาและการบริหารงานคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สำนักงาน ป.ป.ช.
(2) เพื่อปลุกจิตและสร้างวัฒนธรรมการไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่
(3) สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 126 และมาตรา 128 กรณีศึกษาเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน การให้หรือรับสินของเจ้าหน้าที่รัฐ โทษจากการกระทำผิด ตลอดจนมาตรการป้องกันภายใน สป.อว.
(4) ขยายผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานของชมรมพอเพียงต้านทุจริต สป.อว. (STRONG MHESI) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
โดยมีผู้บริหาร บุคลากรและผู้ปฏิบัติงานด้านการรับข้อร้องเรียนทุจริตของหน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด อว. ข้าราชการใหม่ สมาชิกชมรมพอเพียงต้านทุจริต สป.อว. (STRONG MHESI) และบุคลากรของสำนักงานปลัดกระทรวงและสำนักงานรัฐมนตรี เข้าร่วม ณ สถานที่จัดโครงการฯ และผ่านระบบออนไลน์ รวม 400 คน
นายวันนี นนท์ศิริ กล่าวว่า การจัดโครงการครั้งนี้ถือเป็นวาระสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการลดคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภายในหน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษา นับจากการลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ ระหว่าง กระทรวง อว. กับ สำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยมีการแลกเปลี่ยนสนับสนุนข้อมูลและสถานการณ์การทุจริตระหว่างกัน ตลอดจนสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎ ระเบียบที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานและการดำรงตนของบุคลากรกระทรวง อว. โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวง อว. เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบการรับข้อร้องเรียนทุจริต ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและฝ่าฝืนจริยธรรมของเจ้าหน้าที่หน่วยงานและสถาบันอุดมศึกษาในสังกัด พร้อมส่งต่อไปยังส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ประสานงาน เร่งรัดและติดตามจนได้ข้อยุติ โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์สำคัญ คือ พัฒนาการจัดการเรื่องร้องเรียนทุจริตให้มีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพภายในระยะเวลาที่กำหนดด้วยระบบสารสนเทศการพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะและสมรรถนะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานแก่บุคลากร
ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมืออาชีพ มีมาตรฐานเท่าทันต่อสถานการณ์ทุจริต สามารถให้คำปรึกษาแนะนำข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนข้อพึงระวังที่จะไม่กระทำการทุจริต
ในหน้าที่รับผิดชอบ การดำรงตนตามมาตรฐานจริยธรรมและกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
โดยช่วงเช้า มีการอบรมในหัวข้อ แนวทางการบูรณาการความร่วมมือเพื่อบรรลุตัวชี้วัดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (21) ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ โดย นายมีชัย โอ้น ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมธรรมาภิบาลภาครัฐ และหัวข้อสถานการณ์เรื่องร้องเรียนทุจริต และประพฤติมิชอบของกระทรวง อว. กระบวนการรับคำกล่าวหาและการบริหารงานคดีทุจริตและประพฤติมิชอบที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สำนักงาน ป.ป.ช. โดย นางสาวมิรินทร์รัช ชิตถุง ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริต ภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ช.
และในช่วงบ่าย เป็นการอบรมให้ความรู้และปลุกจิตสำนึกแก่บุคลากรของสำนักงานปลัดกระทรวงและสำนักงานรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย No Gift Policy ของ สป.อว. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 และการขยายผลชมรมพอเพียงต้านทุจริต สป.อว. (STRONG MHESI) โดยมีนายวันนี นนท์ศิริ สมาชิกกิตติมศักดิ์ชมรมพอเพียงต้านทุจริต สป.อว. สมาชิกอันดับที่ 001 กล่าวให้ข้อเสนอแนะต่อแนวทางการดำเนินงานของชมรมพอเพียงต้านทุจริต (STRONG MHESI) และการอภิปราย หัวข้อ การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและประโยชน์ส่วนรวม สู่องค์กร โปร่งใสไร้สินบน โดยวิทยากรจาก สำนักต้านทุจริตศึกษา สำนักงาน ป.ป.ช. ได้แก่ นายสมพงษ์ ตะโกพ่วง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและติดตามทุจริตศึกษา และนายภูมิภากร ภูมิวัฒน์ ืเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ และวิทยากรจากสำนักส่งเสริมและบูรณาการการมีส่วนร่วมต้านทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช. ได้แก่ นายเกษม จิตติวุฒินนท์ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ นายติณณภพ พัฒนะ เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ และนางสาวนวพรรษ ภูมิอภิรดี เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตปฏิบัติการ และมีนางสาวบุญจิรา หยุ่มไธสง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวง อว. เป็นผู้ดำเนินการอภิปราย
