เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.68 น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2568 มีมติรับทราบมาตรการรับมือผลกระทบจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ที่มีต่อระบบการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ของไทย เช่น นโยบาย “America First Foreign Aid”, การยกเลิกการสนับสนุนความหลากหลาย (DEI), และการปฏิรูประบบตรวจคนเข้าเมืองที่เข้มข้นขึ้น (Extreme Vetting) มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือด้านการศึกษาและทุนวิจัยระหว่างไทยและสหรัฐฯ รวมถึงโอกาสของนักศึกษาและนักวิจัยไทยในสหรัฐอเมริกา
รมว.กระทรวง อว. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมฯ ได้เน้นย้ำให้เปลี่ยนความท้าทายเป็นโอกาสในการสร้างความเข้มแข็งและยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ซึ่ง กระทรวง อว.ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ดังกล่าว จึงได้เตรียมแผนรับมือ 3 ระยะ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างเป็นระบบและทันท่วงที โดยได้จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อลดผลกระทบต่อระบบ อววน. ของประเทศไทย ประกอบด้วยแผนปฏิบัติการ 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น (ภายใน 1 ปี): ตั้งรับเชิงรุก ช่วยเหลือนักศึกษาไทย ในระยะเร่งด่วน กระทรวง อว.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งสำรวจจำนวนนักเรียนนักศึกษาไทยที่พึ่งพาทุนรัฐบาลสหรัฐฯ เช่น FAFSA หรือ Fulbright เพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือเบื้องต้นผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทยในสหรัฐฯ พร้อมทั้งจัดทำบัญชีโครงการวิจัยที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อจัดหาทุนสำรองและกระจายความเสี่ยงโดยขยายความร่วมมือกับประเทศอื่น ๆ รวมถึงการมอบหมายหน่วยงานทำหน้าที่ให้คำแนะนำเรื่องวีซ่าและโอกาสการทำงานในไทยหรือประเทศทางเลือก
ส่วนระยะกลาง (1-3 ปี): ปรับกลยุทธ์ สร้างพันธมิตรใหม่ ประเทศไทยจะใช้การทูตผลักดันโครงการที่สอดคล้องกับผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เพื่อรักษาความร่วมมือ พร้อมกันนี้จะจัดทำข้อมูลแนะแนวการศึกษาต่อในประเทศทางเลือกที่มีนโยบายเปิดกว้าง เช่น สหราชอาณาจักร แคนาดา จีน และออสเตรเลีย นอกจากนี้ จะเร่งพัฒนาหลักสูตรในไทยให้มีคุณภาพสูงเพื่อรองรับนักศึกษาไทยและต่างชาติ พร้อมออกมาตรการดึงดูดบุคลากรทักษะสูงทั้งชาวไทยและต่างชาติกลับสู่ประเทศ และระยะยาว (มากกว่า 3 ปี): พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ผลักดันไทยสู่ "Education Hub" โดยมุ่งเน้นการยกระดับมหาวิทยาลัยไทยและพัฒนาหลักสูตรนานาชาติ (International Programs) ในสาขาอนาคตที่สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะสร้างความร่วมมือกับอาเซียนและสหภาพยุโรปเพื่อผลักดันไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการศึกษาและการวิจัย (Education Hub) ของภูมิภาค และวางแผนพัฒนาภาคเอกชนไทยให้สามารถเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลก (Global Value Chain)
“กระทรวง อว. มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อนักศึกษาและนักวิจัยของไทยที่อาจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านสถานะวีซ่า การสนับสนุนทางการเงินและวิชาการ โดยขอให้มั่นใจว่ากระทรวง อว. ได้เตรียมมาตรการรองรับเพื่อดูแลทุกท่านอย่างดีที่สุด เพราะทุกท่านคือบุคลากรคุณภาพที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ” น.ส.ศุภมาส กล่าว
เผยแพร่ข่าว : นางสาวเยาวลักษณ์ ทับช้างโท
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
Call Center 1313
เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บไซต์หน่วยงานของรัฐในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ สป.อว. เพื่อเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการภาครัฐ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดกระทรวง โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป