คณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้กำหนด agenda-based flagships 5 ประเด็น สำหรับปี 2563-2566 โดยมีคณะอนุกรรมการรับผิดชอบในแต่ละประเด็น ดังนี้
(1) การเร่งสร้างและพัฒนากำลังคนของประเทศ และจัดการศึกษาตลอดชีวิต รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการด้านการสร้างและพัฒนาบัณฑิต
(2) การพลิกโฉมมหาวิทยาลัย รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย
(3) การขับเคลื่อนความเป็นสากล รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย
(4) การจัดทำและใช้ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการด้านฐานข้อมูลอุดมศึกษา
(5) การยกระดับธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา รับผิดชอบโดยคณะอนุกรรมการด้านธรรมาภิบาล
ทั้งนี้ ได้จัดทำเป็นกรอบและแนวทางการติดตามและประเมินผลด้านการอุดมศึกษาไว้ด้วย
การเร่งสร้างและพัฒนากำลังคนของประเทศ และจัดการศึกษาตลอดชีวิตคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามหน้าที่และอำนาจที่บัญญัติในมาตรา 21 (1) แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 จึงเห็นชอบให้จัดทำและประกาศใช้ปรัชญาการอุดมศึกษาไทยและระบบอุดมศึกษาใหม่ ด้านการสร้างบัณฑิตและพัฒนากำลังคน พร้อมแผนการขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนากำลังคนตามปรัชญาการอุดมศึกษาไทย ปี พ.ศ. 2565-2566 เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ ใช้เป็นแนวทางและวิธีการในการสร้างบัณฑิตและพัฒนากำลังคน พร้อมทั้งให้จัดทำแผนที่ทักษะ (skill mapping) ด้านอุปสงค์ (demand side) และวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งนำไปสู่การผลักดันให้มีการจัดทำทักษะที่พึงประสงค์ของกำลังคนในสาขาต่าง ๆ อาทิ สาขาเกษตรสมัยใหม่ สาขาการตลาดดิจิทัล สาขาท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ สาขานักวิทยาศาสตร์ข้อมูล สาขายานยนต์ไฟฟ้า และได้ต่อยอดไปยังการจัดทำใบแสดงทักษะ (skill transcript) รวมถึงการพัฒนาทักษะกำลังคนของประเทศ (reskill/upskill/new skill) โดยการสร้างหรือปรับปรุงหลักสูตรประกาศนียบัตร (non-degree) อาทิ โครงการผลิตบัณฑิตพันธุ์ใหม่ฯ ที่ได้คัดเลือกหลักสูตรที่ประสบความสำเร็จ จำนวน 20 หลักสูตร เพื่อพัฒนาเป็นหลักสูตรต้นแบบในการพัฒนาทักษะกำลังคน (reskill/upskill/new skill) เพื่อการมีงานทำ |
การพลิกโฉมมหาวิทยาลัยคณะกรรมการผลักดันให้มีการดำเนินการตามที่กฎกระทรวงการจัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2564 กำหนด ทั้งการจัดทำคุณลักษณะ ตัวชี้วัด นิยามปฏิบัติการของการกำหนดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา 5 กลุ่ม คือ กลุ่มพัฒนาการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก กลุ่มพัฒนาเทคโนโลยีและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม กลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น กลุ่มผลิตและพัฒนาบุคลากรวิชาชีพและสาขาจำเพาะ และกลุ่มพัฒนาปัญญาและคุณธรรมด้วยหลักศาสนา ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะประกอบการจัดทำแผนพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับปรับปรุง) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงของแผนต่าง ๆ และนำไปสู่ผลลัพธ์ของภาคอุดมศึกษาที่สามารถตอบโจทย์ของประเทศได้ ทั้งนี้ ในช่วง 4 ปี คณะกรรมการได้เห็นชอบให้สถาบันอุดมศึกษาจำนวน 108 แห่ง (สถาบันอุดมศึกษาในสังกัด/ในกำกับรัฐ 85 แห่ง และสถาบันอุดมศึกษาเอกชน 23 แห่ง) จัดกลุ่มสถาบันอุดมศึกษา ตามผลการประเมินตนเองและแผนการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษาฯ โดยคณะกรรมการได้มีข้อเสนอแนะแนวทางการสนับสนุนงบประมาณโครงการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยให้มีแนวทางที่ชัดเจน ทั้งวัตถุประสงค์ ขอบเขตและเป้าหมาย กระบวนการจัดทำงบประมาณ เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาสามารถพลิกโฉมได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างแท้จริง การปฏิรูปสถาบันอุดมศึกษาผ่านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยส่งผลกระทบต่อการพัฒนาบุคลากร เศรษฐกิจ สังคม และความร่วมมือระดับนานาชาติในวงกว้างทั้งมิติด้านการพัฒนาบุคลากร มิติด้านการพัฒนาทางเศรษฐกิจ มิติด้านการพัฒนาทางสังคม มิติด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อม และมิติด้านการพัฒนาความร่วมมือระดับนานาชาติ |
การขับเคลื่อนความเป็นสากลคณะอนุกรรมการด้านการพลิกโฉมมหาวิทยาลัยได้นำกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อการพัฒนาอุดมศึกษาสู่ความเป็นสากลบูรณาการร่วมกับกลไกการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย 5 แพลตฟอร์ม เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการพลิกโฉมอุดมศึกษาไทยสู่ความเป็นสากล โดยจัดทำแผนการดำเนินงานการสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษาไทยกับเครือข่ายนานาชาติ ประกอบด้วย 6 กิจกรรมหลัก ดังนี้ (1) การพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษาไทยกับเครือข่ายนานาชาติ โดยได้จัดทำแผนการดำเนินงานการสนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือของสถาบันอุดมศึกษาไทยกับเครือข่ายนานาชาติเพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบและพัฒนากลไกตลอดจนแนวทางการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันในการพัฒนาความร่วมมือกับสถาบันในระดับนานาชาติ ร่วมกับกลไกการพลิกโฉมมหาวิทยาลัย 5 แพลตฟอร์ม เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของสถาบันอุดมศึกษาของไทยให้อยู่ในระดับสากล |
การจัดทำและใช้ฐานข้อมูลการอุดมศึกษาคณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 21 (7) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 ที่ต้องกำกับ เร่งรัด ติดตาม และให้คำแนะนำแก่สำนักงานปลัดกระทรวงในการจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันอุดมศึกษาทุกประเภท ผู้เรียน คณาจารย์ ผู้ใช้บัณฑิต และสถิติอื่นที่ถูกต้องและทันสมัย รวมทั้งการวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการอุดมศึกษา และการพัฒนาประเทศบนฐานความรู้ได้ ตลอดจนเปิดเผยข้อมูลและผลการวิเคราะห์ สังเคราะห์ต่อสาธารณชน ดังนั้น ในช่วงวาระ 4 ปีที่ผ่านมาคณะกรรมการจึงให้ความสำคัญในการให้นโยบาย ความเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาระบบข้อมูลการอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนและผลักดันให้ สป.อว. ดำเนินการในภารกิจดังกล่าวให้ประสบผลสำเร็จตามที่กฎหมายกำหนด โดยผลการดำเนินงานตามมติและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการที่เกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา อาทิ ผลสำเร็จในการจัดทำกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการเปิดเผย และการส่งข้อมูลการอุดมศึกษา พ.ศ. 2566 รวมถึงกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง กรอบและแนวทางการพัฒนาระบบข้อมูลการอุดมศึกษา แผนพัฒนาระบบข้อมูลการอุดมศึกษา (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพการพัฒนากำลังคนของประเทศ และแผนบูรณาการพัฒนาและเชื่อมโยงระบบข้อมูล อววน. (พ.ศ. 2566 - 2570) นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำ data catalog ซึ่งปัจจุบันมีชุดข้อมูลที่เผยแพร่ จำนวน 56 ชุด การพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลและระบบคลังข้อมูลเพื่อรองรับนโยบายด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (UniCon) เพื่อบูรณาการข้อมูล ซึ่งมีรูปแบบการจัดส่งข้อมูล 3 รูปแบบ คือ Model 1 system-to-system Model 2 Excel add-In และ Model 3 CSV File โดยในปัจจุบัน มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วม 171 แห่ง และมีระบบสารสนเทศเพื่อการตัดสินใจของผู้บริหาร (BI) ซึ่งทั้งหมดจะเป็นกลไกในการส่งเสริมการเชื่อมโยงและการใช้ประโยชน์ข้อมูลอุดมศึกษาในการพัฒนาการผลิตและพัฒนากำลังคนที่ตอบโจทย์ประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
การยกระดับธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 มาตรา 10 บัญญัติให้รัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษา กำหนดแนวปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามหลักการตามมาตรา 9 และเพื่อให้การจัดการอุดมศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ตามมาตรา 5 โดยแนวปฏิบัตินั้น เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง เปิดเผยผลการดำเนินการตามแนวปฏิบัติให้ประชาชนทราบตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอุดมศึกษาซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา คณะกรรมการได้มีข้อเสนอแนะพร้อมทั้งรับฟังความเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาจัดทำและปรับปรุงแนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา และแนวปฏิบัติตามหลักความรับผิดชอบต่อสังคม หลักเสรีภาพทางวิชาการ หลักความเป็นอิสระ และหลักความเสมอภาค อย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการประกาศใช้แนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาและแนวปฏิบัติตามหลักความรับผิดชอบต่อสังคม หลักเสรีภาพทางวิชาการ หลักความเป็นอิสระ และหลักความเสมอภาค เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2564 และแนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา (ฉบับที่ 2) และแนวปฏิบัติตามหลักความรับผิดชอบต่อสังคมหลักเสรีภาพทางวิชาการ หลักความเป็นอิสระ และหลักความเสมอภาค (ฉบับที่ 2) เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 เพื่อให้แนวปฏิบัติดังกล่าว นำไปสู่การปฏิบัติของสถาบันอุดมศึกษาภายใต้บริบทที่หลากหลายได้อย่างถูกต้องและสอดคล้องตามที่กฎหมายกำหนด และนำพาสถาบันอุดมศึกษาสู่ความเป็นเลิศทางด้านวิชาการและการบริหารจัดการที่ดี |
เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บไซต์หน่วยงานของรัฐในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดตั้งขึ้นเพื่อมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ สป.อว. เพื่อเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการภาครัฐ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของสำนักงานปลัดกระทรวง โปรดแจ้งให้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป